Fast & Furious: HOBBS & SHAW

รีวิว Fast & Furious: HOBBS & SHAW เมื่อตัวละครสืบเชื้อสายมาจากยอดมนุษย์

เราคงไม่อาจปฏิเสธความสำเร็จในระดับโลกของแฟรนชายส์รถซิ่งอย่าง Fast & Furious ได้เลย สิ่งที่เป็นปัจจัยให้หนังเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในดวงใจของแฟนหนัง คือการทำให้คนดูผูกพันไปกับเหล่าตัวละคร อีกทั้งฉากแอ็คชั่นอันแสนตื่นตาตื่นใจและแปลกใหม่ ยิ่งเกื้อกูลให้ตัวหนังได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในทุกภาคที่ออกฉาย

 

Fast & Furious: HOBBS & SHAW คือการแตกเส้นเรื่องย่อยของตัวละครฮ็อบส์ (ดเวย์น จอห์นสัน) และ ชอว์ (เจสัน สเตแธม) สองคู่ปรับที่เกลียดขี้หน้ากันเข้าไส้ในแฟรนชายส์ Fast การปะทะคารมกันอย่างดุเดือด รวมถึงการออกหมัดต่อยตีกันให้ยับไปข้าง คือความสะใจของแฟนหนังที่ได้เห็น “แอ็คชั่นสตาร์” ทั้งสองคนดวลกันอย่างไม่ประนีประนอม

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคนี้ ว่าด้วยการพูดถึงการก่อการร้ายของบริกซ์ตัน ลอร์ (อิดริส เอลบา) จาก “อีธีออน” ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องการลดจำนวนประชากรโลกด้วยอาวุธทางชีวภาพ เพียงเพราะต้องการสร้างความสมดุล (ตัวร้ายในหนังแอ็คชั่นไซไฟยุคหลังๆมักจะเป็นตัวละครที่มีความคิดแบบนี้) หลังจากฉากเปิดเรื่องที่บริกซ์ตัน ไม่สามารถนำไวรัสชีวภาพกลับไปให้องค์กรได้ เพราะและแฮ็ตตี้ (วาเนสซ่า เคอร์บี้) เจ้าหน้าที่ MI:6 ได้ตัดสินใจฉีดไวรัสดังกล่าวเข้าไปในตัวเอง เพราะดีกว่าให้อาวุธร้ายไปตกอยู่ในมือของบริกซ์ตัน

 

แฮ็ตตี้ตกที่นั่งลำบาก เมื่อองค์กรอย่างอีธีออนที่มีอำนาจในการชักใยแวดวงสื่อสารมวลชน ได้ใส่ความว่าเธอหักหลังองค์กรและขโมยไวรัสไป ส่งผลให้ฮ็อบส์ถูกเรียกตัวมาทำภารกิจ เช่นเดียวกับชอว์ที่ต้องมาจับมือแบบไม่เต็มใจกับฮ็อบส์ เพียงเพราะว่าแฮ็ตตี้นั้นเป็นน้องสาวแท้ๆของเขาเอง